1.ชนิดของเครื่องจักร
เครื่องจักรต่างชนิดกันจะมีลักษณะการทำงานที่ต่างกัน ดังนั้นจึงต้องการคุณสมบัติของน้ำมันหล่อลื่นแตกต่างกันออกไปด้วย สูตรน้ำมันที่เหมาะสมก็จะต่างกัน เช่น ระบบไฮดรอลิคส่งกำลังมีความต้องการน้ำมันที่มีสารเพิ่มคุณภาพชนิดป้องการการสึกหรอ (Antiwear) เพื่อป้องกันการสึกหรอที่มักจะเกิดที่ปั๊มไฮดรอลิค, ระบบเกียร์ ต้องการน้ำมันที่มีสารเพิ่มคุณภาพชนิดรับแรงกด (Extreme Pressure, EP) เพื่อทำหน้าที่ปกป้องฟันเกียร์จากการสึกหรอ ควรระลึกไว้เสมอว่า การเลือกน้ำมันหล่อลื่นผิดประเภทเครื่องจักร อาจทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้
2.ความหนืด
การเลือกเบอร์ความหนืดของน้ำมันให้เหมาะสมกับการทำงานมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งการจะทราบว่าต้องใช้ความหนืดเท่าไรจึงจะเหมาะสม จำเป็นต้องได้รับข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการพิจารณา ดังนี้
- ความเร็วรอบของเครื่องจักร (คงที่หรือไม่คงที่)
- ภาระงาน แรงกดทับ (Load)
- อุณหภูมิที่ใช้งาน
น้ำมันหล่อลื่นเบอร์ความหนืดสูงๆ จะเหมาะสำหรับการทำงานของเครื่องจักรในสภาวะที่ความเร็วรอบต่ำ และมีภาระงานหนัก ในขณะที่น้ำมันหล่อลื่นเบอร์ความหนืดต่ำๆ จะเหมาะสำหรับการทำงานของเครื่องจักรในสภาวะที่มีความความเร็วรอบสูง และมีภาระงานเบา
3.มาตรฐานและข้อกำหนดต่างๆ
เครื่องจักรกลต่างประเภท ต่างผู้ผลิต ต่างรุ่นกัน อาจมีมาตรฐานที่ต้องการที่แตกต่างกัน การเลือกน้ำมันอุตสาหกรรมที่ตรงตามมาตรฐานที่เครื่องจักรต้องการ จะทำให้เครื่องจักรทำงานได้อย่างมีประสิทธภาพสูงสุด